เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด


29 / 09 / 2025

เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด  

  • 4 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อคอนโดมากที่สุด ได้แก่ ใจกลางเมือง, รัชดา-ลาดพร้าว, อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ และบางนา-เทพารักษ์
  • ทำเลใจกลางเมือง (สีลม, สาทร, วัฒนา) เป็นอันดับหนึ่งที่ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมากที่สุดถึง 2,159 หน่วย โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ
  • ทำเลรัชดา-ลาดพร้าวเป็นอันดับสอง โดยมีสัดส่วนการซื้อของชาวต่างชาติสูงถึง 67.9% ของยูนิตที่ขายได้ทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและเมียนมา
  • ภาพรวมในปี 2567 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมือหนึ่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคิดเป็น 18% ของจำนวนยูนิตที่ขายได้ทั้งหมด

 

หลังจากช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา (พ.ศ.2563-2564) ต่างชาติก็กลับมาซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกันเป็นอันมาก เช่นเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 ในขณะที่กำลังซื้อของไทยโดยรวมตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สำรวจล่าสุดถึงสิ้นปี 2567 พบว่า  ต่างชาติซื้อห้องชุดถึง 5,748 หน่วย จากการขายห้องชุดทั้งหมด 31,897 หน่วยที่เปิดขายโดยบริษัทพัฒนาที่ดิน (ไม่รวมห้องชุดมือสอง) หรืออาจกล่าวได้ว่า 18% ของห้องชุดมือหนึ่งทั้งหมดที่มีการซื้อขายกันในปี 2567 ซื้อโดยชาวต่างชาติ

แม้ต่างชาติจะซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในราคาที่สูงกว่าไทยก็ยังถือว่าไม่มากนัก ในกรณีของประเทศมาเลเซีย มีข้อกำหนดว่าต่างชาติจะซื้อห้องชุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านริงกิต หรือ 16 ล้านบาท หรือในอินโดนีเซียก็กำหนดให้ซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ประเทศไทยก็ควรกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต่างชาติจะซื้อได้ เพื่อว่าต่างชาติจะได้ไม่มาแย่งซื้อห้องชุดกับคนไทยที่มีฐานะด้อยกว่า หรือไทยอาจกำหนดคล้ายกับออสเตรเลีย ที่ให้ต่างชาติซื้อบ้านได้เฉพาะบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสองห้ามซื้อ เพื่อจะได้ไม่ทำให้ชาวออสเตรเลียเสียโอกาส

 

ทำเลที่ต่างชาติซื้อมากที่สุดได้แก่คือ ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ทำเล บางนา-เทพารักษ์ และทำเล  ใจกลางเมือง โดยพบว่า

 

อันดับที่ 1ทำเล ใจกลางเมือง รวมสีลม สาทร บางรัก พหลโยธิช่วงต้น วัฒนา คลองเตย เป็นต้น โดยมีชาวต่างชาติซื้อมากถึง 2,159 หน่วยจากทั้งหมด 8,216 หน่วย รวมมูลค่า 25,140 ล้านบาท จากมูลค่าที่มีผู้ซื้อรวม 80,221 ล้านบาท หรือ 31.3% โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งประเทศตะวันตกและประเทศในเอเชีย

อันดับที่ 2 ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ต่างชาติซื้อ 1,974 หน่วย จาก 2,907 หน่วยที่มีผู้ซื้อไป กรณีนี้หมายความว่าชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในทำเลนี้ถึง 67.9% ของห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด ในแง่ของมูลค่า ชาวต่างชาติซื้อไปถึง 8,452 ล้านบาท จาก 11,523 ล้านบาท หรือ 73.3% ของทั้งหมด และกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาซื้อในพื้นที่นี้ก็เป็นคนจีน และเมียนมา

อันดับที่ 3 ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ โดยชาวต่างชาติซื้อไป 536 หน่วยจากทั้งหมด 1,847 หน่วย หรือ 29% ของทั้งหมด มูลค่ารวมที่ชาวต่างชาติซื้อเป็นเงิน 2,445 ล้านบาท จากทั้งหมด 4,890 หน่วย หรือ 50% ทำเลนี้ก็มีคนจีนมาซื้อมากเป็นพิเศษเช่นกัน

ทำเลที่ 4บางนา-เทพารักษ์ ต่างชาติซื้อ 486 หน่วย หรือ 13.4% ของทั้งหมด รวมมูลค่า 1,620 ล้านบาท หรือ 15.2% ของทั้งหมด โดยในทำเลนี้ กลุ่มผู้ซื้อยังเป็นคนจีนและชาวเมียนมารัฐบาลควรกำหนดให้ต่างชาติซื้อห้องชุดในพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นสำคัญ

เพื่อจะได้ไม่ไปซื้อเปะปะ เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติด้วย ที่สำคัญ ห้องชุดที่ขายให้ชาวต่างชาติควรมาจากการจับฉลาก ไม่ควรให้ชาวต่างชาติอยู่รวมกันในชั้นหรือห้องติดๆ กันเพราะจะเป็นการแยกกลุ่มย่อย  ในประเทศสิงคโปร์ ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน มาเลย์หรืออินเดีย ก็ต้องจับฉลากเพื่อให้การอยู่อาศัยปะปนกัน เพื่อการผสานทางวัฒนธรรมด้วย

กรณีที่ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างมีแรงจูงใจที่แตกต่างกัน เช่น

1. มุ่งขยายอิทธิพลสู่นอกประเทศและเป็นการส่งออกประชากรไป มายึดหัวหาด ในประเทศต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งแอฟริกาและอเมริกาใต้

2. รัสเซียและยูเครนด่าง ‘หนีตาย‘ จากสงคราม หนีการเกณฑ์ทหารและตั้งใจมาตั้งรกรากในประเทศไทย

3. กรณีเมียนมา ชาวเมียนมาร์ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ต่างพยายามหนีมาอยู่ประเทศไทยและเพื่อนบ้านอื่นเพราะมองว่าระบบเผด็จการทหารทำให้ประเทศของตนไร้อนาคตอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจากกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ อาจเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตัวเลขต่อไปนี้

1. ชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2567 เป็นเงิน 39,640 ล้านบาท

2. ประมาณการณ์ว่าหากรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นด้วย เช่นบ้านแนวราบมูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% เพราะชาวต่างชาติส่วนมากจะซื้อห้องชุดเป็นสำคัญ โดยค่าเงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 51,532 ล้านบาท

3. การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในจังหวัดภูมิภาคด้วย ซึ่งส่วนมากจะเป็นจังหวัดหลักด้านการท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน หาดใหญ่ เป็นต้น มูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% เป็นเงินรวมกันประมาณ 87,604 ล้านบาท หรืออย่างมากไม่เกิน 100,000 ล้านบาท

4. เมื่อเทียบกับการขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเป็นเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท ต่างชาติก็ซื้อเป็นเพียง 10% เท่านั้น

ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ขายให้กับชาวต่างชาติ อาจกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เท่าที่ควรหรือไม่มีประสิทธิผลนั่นเองอย่างไรก็ตามหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอสังหาริมทรัพย์ควรส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคประเภทต่างๆ และควรมีการจัดเก็บภาษีการซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเช่นนานาอารยประเทศ ได้แก่

1. เก็บภาษีการซื้อบ้านและห้องชุดของชาวต่างชาติ ในอัตราประมาณ 10% ถึง 20% ทั้งนี้ในยุโรปจัดเก็บเกือบ 20% ฮ่องกง 30% และสิงคโปร์ 60% จะได้นำเงินมาพัฒนาประเทศ

2. จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับบ้านและห้องชุดตามราคาตลาดเฉพาะชาวต่างประเทศเฉกเช่นคนไทยต้องเสียภาษีในการไปซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศ โดยจัดเก็บประมาณ 1% ของราคาตลาดทุกปี

 3. การจัดเก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ Capital Gain Tax ประมาณ 10% ถึง 20% ของส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อกับราคาที่ขายตามราคาตลาด

4. ภาษีกองมรดก ประมาณ 10% ของมูลค่ากองมรดก เป็นต้น

มีการจัดเก็บภาษีตามนานาอารยะประเทศเช่นนี้ ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แม้จะไม่มากนักก็ตาม

 

เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 % 

Tooktee Live

ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"

และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!

??  วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568

?? เวลา 13.00 - 16.00 น.

สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8 

คลิกลงทะเบียน : https://bit.ly/3nANsQr

สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : @Tooktee >> https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w

 

เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.thansettakij.com/real-estate/639532

ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย

บทความที่เกี่ยวข้อง
รายการ