ทำเลยอดนิยม
ทรัพย์แนะนำ
ทั้งหมดคอนโดรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลที่ยังบูมอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน
คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลที่ยังบูมอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบันย่านที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเมื่อสมัย 10 ปีที่แล้ว คำที่คุ้นหูจะเป็นคำว่า อโศก-รัชดา มากกว่า แต่ปัจจุบัน ด้านขีดความสามารถหรือโอกาสในการเติบโต ต้องยกให้ย่าน รัชดา-ลาดพร้าว เป็นย่านที่บูมอย่างต่อเนืื่อง เนื่องจากเป็นย่านที่ครับครันด้านต่าง ๆ ดังนี้ด้านการทำงาน (Work) เนื่องจากมีแหล่งออฟฟิศ เกรด A มากมาย พัฒนาในย่านนี้ตามแนวเส้นถนนรัชดาภิเษก ทั้ง เอไอเอ แคปิตอลเซ็นเตอร์, อาคารเดอะไนท์ รวมไปถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ย้ายจากทำเลบริเวณคลองเตย มาอยู่ที่จุดนี้ นอกจากนี้ในอนาคตยังมี Mega project ที่เป็นแหล่งงานเกิดขึ้นคือ โครงการ The Super Tower ตึกที่จะพัฒนาให้สูงที่สุดในประเทศไทย ที่อยู่ภายในโครงการของกลุ่ม G Land ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาได้เข้าซื้อกิจการไป จะทำให้ย่านรัชดา-ลาดพร้าวนี้ เพิ่มความเป็นแหล่งงานมากขึ้นไปอีกขั้นนึงภาพจาก http://www.painaidii.com/ด้านแหล่งท่องเที่ยว ช๊อปปิ้ง (Play) กล่าวได้ว่าตลอดเส้นถนนรัชดา-ลาดพร้าว จะมีห้างร้านชั้นนำ ทั้งในกลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มสยาม ฟิวเจอร์ ที่เป็นเจ้าตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงกลุ่มรายอื่น ๆ ที่พัฒนานี้ด้วยเช่นกัน ทั้ง ศูนย์การค้า The Street รัชดา ที่มีจุดเด่นด้านมีร้านค้าที่เปิดบริการตลอด 24 ชม. สวนลุมไนท์บาซาร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว รวมไปถึงตลาดนัดต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ เช่น ตลาดนัดรถไฟรัชดา ตลาดห้วยขวาง และ ตลาดอินดี้ โชคชัย 4 เป็นต้น จะทำให้การอยู่ในทำเลนี้ทั้งกลางวันและช่วงกลางคืน ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป.เมื่อครบทั้งด้านการทำงานและแหล่งช๊อปปิ้งแล้ว เรื่องการอยู่อาศัย (Stay) ก็จะตามมาซึ่งเรียกได้ว่าทำเลรัชดา-ลาดพร้าวนี้ ครบจบในที่เดียว ซึ่งถึงแม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นอาคารชุด จะได้ผลกระทบจากโควิด 19 ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากระดับราคาค่อนข้างหลากหลายทั้งต่ำ-ปานกลาง-สูง เนื่องจากมีถนนเส้นหลัก (รัชดา-ลาดพร้าว) และถนนซอยย่อยที่เชื่อมต่อทะลุระหว่างถนนเส้นหลักได้ จึงมีความน่าสนใจที่จะซื้อ-เช่า ภาพจาก https://www.mrta.co.th/รวมไปถึงในอนาคตการเดินทางในพื้นที่จะสะดวกมากยิ่งขึ้น จากการที่ปัจจุบันมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ที่จะพัฒนาเชื่อมต่อพื้นที่ย่านรัชดา-ลาดพร้าวให้ใกล้กันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อไปถึงบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย (ย่านสำโรง) ได้ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ ในปี 2564.จึงถือได้ว่า รัชดา-ลาดพร้าว เป็นถิ่นที่เหมาะแก่การ work play stay มากแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทีเดียว.โดยเทรนด์การเติบโตของราคาขาย หากเป็นโครงการ Low-rise เปิดขายใหม่ในปี 2563 เช่น โครงการ ควินทารา คีเนท รัชดา 12, เดอะ โมเมนต์ รัชดา 19 เป็นต้น จะมีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 70,000 - 80,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเมื่อย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2562) เช่น โครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 เปิดราคาขายประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือได้ว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง เนื่องจากแปลงที่ดินพัฒนาเป็นแปลงขนาดเล็ก เข้าไปในซอย มีที่ดินรอการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก.แตกต่างกับโครงการ High-rise ติดถนนใหญ่ (ถนนรัชดา-ลาดพร้าว) ที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมา (ปี 2562) ที่มีการเติบโตของราคาที่ดีกว่า ตัวอย่างเช่น โครงการ ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ รัชดา เปิดที่ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม. เปรียบเทียบกับโครงการไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร ที่เปิดขายมาก่อนหน้า ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม. ที่พัฒนาบนเส้นถนนเส้นเดียวกัน.ซึ่งหากใครต้องการซื้อลงทุน ทางทีมงาน Tooktee.com แนะนำให้ซื้อโครงการ High-rise จะเหมาะสมกว่าเนื่องจากมีโอกาสเติบโตราคาที่สูงในอนาคต เนื่องจากที่ดินแปลงใหญ่ ๆ ติดถนนหลักในพื้นที่เริ่มมีน้อยและราคาแพง .ในส่วนของคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เพื่อความสะดวกสบายเวลาทำงาน ก็แนะนำเป็นโครงการ Low-rise เนื่องจากมีระดับราคาขายต่อห้องประมาณ 2 ล้านปลาย ๆ ไปจนถึงราคา 3 ล้านต้น ๆ แบบ 1 ห้องนอนในตลาดมีให้เลือกช๊อปเป็นจำนวนมากแนะนำคอนโดรัชดา-ลาดพร้าวแฮปปี้คอนโด แอนด์ สปอร์ตคลับ (1.60 ล้านบาท)ดิ ยูนีค รัชดา 19 (2.37 ล้านบาท)ชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 19 (2.4 ล้านบาท)คอนโด 624 คอนโดเลต รัชดา 36 (2.89 ล้านบาท)ทรี คอนโด ซ.ลาดพร้าว 27 (4.56 ล้านบาท)1.แฮปปี้คอนโด แอนด์ สปอร์ตคลับประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้น 2 อาคารจุดเด่น : ใกล้ MRT สถานีสุทธิสาร เพียง 2 กม. และ 3 กม. จากตลาดนัดรถไฟรัชดาที่ตั้ง : ซ.20 มิถุนา, ถ.สุทธิสารวินิจฉัย, แขวงสามเสนนอก, เขตห้วยขวาง, กรุงเทพมหานครราคา : 1,601,000.-ขนาด : 28 ตร.มหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7854/1/28655/TAG : #คอนโด20มิถุนา #คอนโดสุทธิสาร2.ดิ ยูนีค รัชดา 19ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : 500 เมตร ถึง MRT รัชดาภิเษก เข้า-ออกได้ 3 เส้นทางหลักที่ตั้ง : ซ.รัชดาภิเษก 19, ถ.รัชดาภิเษก, แขวงจอมพล, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 2,379,300.-ขนาด : 34.49 ตร.ม.โปรโมชั่น : ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2328/1/30712/TAG : #คอนโดรัชดา19 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว3.ชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 19ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : 100 เมตร ถึง MRT รัชดาภิเษก เข้า-ออกได้ 3 เส้นทางหลัก ห่างจากยูเนี่ยน มอลล์ 2.8 กม.ที่ตั้ง : ถ.รัชดาภิเษก, แขวงดินแดง, เขตดินแดง, กรุงเทพมหานครราคา : 2,400,000.-ขนาด : 31.9 ตร.ม.หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2327/1/25296/TAG : #คอนโดรัชดา19 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว4.คอนโด 624 คอนโดเลต รัชดา 36ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : ใกล้ SCB Park ห่างจาก MRT ลาดพร้าว 2 กม. และจากเมเจอร์ รัชโยธิน 1.5 กิโลเมตรที่ตั้ง : ซ.รัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ), ถ.รัชดาภิเษก, แขวงจันทรเกษม, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 2,892,600.-ขนาด : 48 ตร.มหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2375/1/28659/TAG : #คอนโดรัชดา36 #คอนโดซอยเสือใหญ่ #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว5.ทรี คอนโด ซ.ลาดพร้าว 27ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : ใกล้ทั้ง MRT และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างจากยูเนี่ยนมอลล์ เพียง 2.7 กม.ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 27 , ถ.ลาดพร้าว, แขวงจันทรเกษม, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 4,560,000.-ขนาด : 70 ตร.ม.หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7843/1/28638/TAG : #คอนโดลาดพร้าว 27 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าวนอกจากโครงการคอนโดรัชดา-ลาดพร้าว หากท่านในสนใจโครงการแนวราบ บ้านรัชดา-ลาดพร้าว Tootkee.com มีโครงการมาแนะนำสามารถเลือกดูได้ เรียงตามระดับราคา ดังนี้.แนะนำบ้านรัชดา-ลาดพร้าวสิริเฮ้าส์ รัชดา 18 (5.49 ล้านบาท)เธอ ลาดพร้าว 93 (9.1 ล้านบาท)บ้านเดี่ยว โชคชัย 4 (12.6 ล้านบาท)อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 (28.5 ล้านบาท)เดอะเจนทริ เอกมัย–ลาดพร้าว (31.0ล้านบาท)1.สิริเฮ้าส์ รัชดา 18ประเภท : ทาวน์โฮมราคาถูกจุดเด่น : เพียง 12 นาที ถึง MRT ห้วยขวาง บ้านในเมืองราคาเข้าถึงได้ที่ตั้ง : ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ, แขวงสามเสนนอก, เขตห้วยขวาง, กรุงเทพมหานครราคา : 5,490,000.-ขนาด : ที่ดิน 19.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 172.35 ตร.ม. โปรโมชั่น : ติดวอลเปเปอร์หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2561/1/26703/TAG : #ทาวน์โฮมใจกลางเมือง #ทาวน์โฮมรัชดา-ลาดพร้าว 2.เธอ ลาดพร้าว 93ประเภท : ทาวน์โฮม 3 ชั้นจุดเด่น : ทาวน์โฮมใหม่ใจกลางลาดพร้าว แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างบิ๊กซีลาดพร้าว เพียง 1.5 กม.ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 93, ถ.ลาดพร้าว, แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานครราคา : 9,107,000.-ขนาด : 22.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 223.23 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7858/1/28717/TAG : #ทาวน์โฮมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง #ทาวน์โฮม3ชั้น3.บ้านเดี่ยว โชคชัย 4ประเภท : บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจุดเด่น : บ้านเดี่ยวแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใกล้เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ และห้าง CDCที่ตั้ง : ซ.โชคชัย 4 ซอย 51, ถ.ลาดพร้าว-วังหิน, แขวงลาดพร้าว, เขตลาดพร้าว, กรุงเทพมหานครราคา : 12,600,000.-ขนาด : ที่ดิน 54 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7698/1/26021/TAG : #บ้านลาดพร้าว-วังหิน3ชั้น #บ้านรัชดา-ลาดพร้าว4.อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24ประเภท : บ้านเดี่ยวหรูพร้อมสระ รัชดา-ลาดพร้าว จุดเด่น : บ้านเดี่ยว Super Luxury พร้อม Private Pool ที่สุดแห่งทำเลใจกลางเมือง ใกล้แยกรัชโยธิน และ MRT พหลโยธิน 24ที่ตั้ง : ซ.พหลโยธิน 24, ถ.พหลโยธิน, แขวงจอมพล, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 28,500,000.-ขนาด : ที่ดิน 64 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม. โปรโมชั่น : พร้อมโซฟา และโต๊ะทานข้าวหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2404/1/25958/TAG : #บ้านเดี่ยวหรู #บ้านรัชดา-ลาดพร้าว 5.เดอะเจนทริ เอกมัย–ลาดพร้าว ประเภท : บ้านหรู 3 ชั้นจุดเด่น : 750 ม. จากถนนลาดพร้าว (แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง) เพียง 800 เมตร จากศูนย์การค้า the SCENEที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 94, ถ.ลาดพร้าว, แขวงพลับพลา, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานครราคา : 31,000,000.-ขนาด : 61.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2580/1/26010/TAG : #บ้านเดี่ยวหรู #บ้านรัชดา-ลาดพร้าวสอบถามหน่วยขายเพิ่มเติมผ่าน Line : http://line.me/ti/p/~@tooktee หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125
ทำเลบางซื่อ - ทำเลคอนโดขายดี กลางปี 2563
จากงานสัมมนาทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ณ กลางปีพ.ศ. 2563 ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (AREA) ซึ่งจัดการสัมมนาวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จากข้อมูลพบว่า ทำเลบางซื่อ (C4) เป็นทำเลคอนโดขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีอัตราการขายคอนโดต่อพื้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดที่มีระดับราคา 2-3 ล้านบาท.ขอบเขตทำเลบางซื่อ (จากคำจำกัดความของ AREA) อยู่ตั้งแต่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ขวา) บริเวณเหนือกรุงเทพชั้นใน ไปจรดเขตกรุงเทพฯ ฝั่งทางเหนือ โดยมีเส้นถนนเส้นหลักในพื้นที่ได้แก่ ถนนพระราม 6, ถนนประชาราษฎร์สาย 1, ถนนประชาราษฎร์สาย 2, ถนนประชาชื่น (เลียบคลองประปา) และปลายถนนรัชดาภิเษก ที่ไปเชื่อมต่อกับถนนวงศ์สว่าง. ที่มา: ทีมงาน Tooktee.comทำเลบางซื่อ คือ ??? เป็นทำเลที่มีความหลากหลายในการใช้พื้นที่ เช่น สถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) พื้นที่หน่วยงานทางการทหาร พื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ (SCG และปูนซีเมนต์ไทย) รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ การพัฒนาระบบคมนาคมในพื้นที่หลัก ๆ ที่น่าสนใจ คือ บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านการคมนาคมยุคใหม่ของกรุงเทพฯ ตามแผนการพัฒนาจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีแดงอ่อน รวมไปถึงสาย Airport Link ที่จะเชื่อมต่อท่าอากาศยานระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พาดเชื่อมกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ นับว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ทำให้ภาพรวมทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองสถานีกลางบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณ ภาพจากประชาชาติธุรกิจอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ - สัปปายะสภาสภาน (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณภาพจาก Line Today. ทำไมทำเลบางซื่อนี้ถึงขายดี???เหตุผลจากการเป็น Hub ในด้านการคมนาคมในอนาคต และปัจจุบันยังสามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานี ดูโครงข่ายรถไฟฟ้า รวมไปถึงหากเป็นผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีเส้นทางด่วนต่าง ๆ ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์ ที่สามารถไปใช้บริการได้ในเวลาเร่งด่วนได้ กอปรกับ การเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้มีความต้องการคอนโดในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น .ช่วงราคาไหนถึงขายดี???จากฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้สำรวจและช่วงระดับราคาคอนโดที่ได้สำรวจออกเป็น 7 ระดับ ตั้งแต่ราคา 0.500-1.000 ล้านบาท/หน่วย ไปจนถึงราคามากกว่า 20 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งกลางปี พ.ศ.2561 พื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) พบว่าทำเลบางซื่อ เป็นทำเลที่มีการซื้อ-ขายคอนโดมากที่สุด เป็นอันดับ 1 โดยเป็นทำเลคอนโดขายดีในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท ที่มา : สรุปข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจากข้อมูลข้างต้นพบว่ามีการซื้อ-ขาย ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเท่ากับ 845 หน่วย คิดเป็นถึง 3% ของการขายทั้งหมดในพื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) หากวิเคราะห์คอนโดที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน นิยมพัฒนาบริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนประชาชื่น เป็นต้น โดยหากตั้งอยู่ติดเส้นถนนสายหลัก จะมีระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านบาท และหากอยู่ในทำเลซอยจะอยู่ที่ระดับราคาจะลดหลั่นลงมา ซึ่งหากคอนโดก่อสร้างบริเวณเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งขาเข้าเมืองนนทบุรี ก็จะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ คอนโดที่น่าสนใจในทำเล ได้แก่ ริชพาร์ค @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ และริชพาร์ค @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นต้น.นอกจากทำเลบางซื่อ ยังมีทำเลอื่นๆ ใกล้เคียง ก็มีความน่าสนใจเช่นเดียวกันทั้งทำเลวงแหวน-เพชรเกษม ทำเลบางกอกน้อย-บางใหญ่ และทำเลบางพลัด ซึ่งคอนโดที่น่าสนใจ จะอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาท และ 1-2 ล้านบาท ในอนาคตก็มีโอกาสติดอันดับทำเลคอนโดขายดีอันดับ 1 ได้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนทำเลคอนโดขายดีสุดๆ หรือไม่ อย่างไร.ในส่วนของเนื้อหาฉบับเต็มสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับhttp://www.area.co.th/
ทำเลพหลโยธิน-รามอินทรา
ทำเล พหลโยธิน-รามอินทรา ทำเลทองขายดี ทำเลศักยภาพสูง เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 63) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 64) ข้อมูลโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา เป็น 1 ใน 14 โซนใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วย 6 โซนย่อย ได้แก่ D1: สายไหม D2: สะพานใหม่ D3: บางบัว D4: ลาดปลาเค้า-มัยลาภ D5: วัชรพล-คู้บอน D6: สุขาภิบาล 1 ที่อยู่อาศัยอยู่ในโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา ตำแหน่งที่ตั้ง : ทำเล D พื้นที่ส่วนตอนบนของกรุงเทพฯก่อนเข้าเขตรังสิต (ปทุมธานี) ทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มคนทำงานท่าอากาศยานดอนเมือง (ทอ.) รวมไปถึงหน่วยงานราชการแลทหารในพื้นที่ ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูตต ทำให้สามารถรองรับกลุ่มคนทำงานในเมืองที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อย่างดี ขอบเขตด้านบนเป็นเส้นถนนสายไหมที่เชื่อมต่อมาจากเส้นถนนพหลโยธินยาวไปถึงบางส่วนของเส้นถนนหทัยราษฎร์ ด้านตะวันออกจรดถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) ทิศใต้จรดถนนประเสริฐมนูญกิจและฝั่งตะวันตกจรดถนนวิภาวดีรังสิต สัดส่วนประเภทที่อยู่อาศัยรวมพื้นที่ ที่อยู่อาศัยที่ยังเปิดขายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนหน่วยขายกว่า 70% ของหน่วยที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561) ราคาเฉลี่ยบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2560) ราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยต่อหน่วย บ้านเดี่ยว 9.166 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2.332 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยราคาทั้ง 14 โซนในกรุงเทพฯและปริมณฑล บ้านเดี่ยว 7.054 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 3.704 ล้านบาท สรุปภาพรวมตลาด ราคาเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 6 ราคาเฉลี่ยรวมในพื้นที่ สูงกว่า ของราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ยังเปิดขายอยู่ ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561 ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 14 ทำเล หมายเหตุ 1.การแบ่งวิเคราะห์ทำเลตลาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวน 14 ทำเล (ตั้งแต่ตัวอักษร A ถึง N) และแบ่งเป็นทำเลย่อยจากทำเลหลักรวมจำนวนทั้งสิ้น 78 พื้นที่ (Zone) เป็นการแบ่งทำเลโดยพิจารณาจากศักยภาพของพื้นที่ในด้านลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ รูปแบบการคมนาคม และสภาพภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ เป็นสำคัญ 2.ข้อมูลนำเสนอภาพรวมด้านตลาดที่อยู่อาศัย เป็นข้อมูลที่เกิดจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ใช้นำเสนอในเว็บไซต์ ทุกที่ (www.Tooktee.com) เนื้อหาข้อความ และรูปภาพนำเสนอต่างๆ ที่แสดงทั้งหมดถือเป็น ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท เอเจนซี่ ฟอ ร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เท่านั้น ห้ามมิให้บุคคลอื่น คัดลอก ดัดแปลง หรือ ทำซ้ำ หากมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัดโดยตรง
AREA เปิดโพยที่ดินติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม “สถานีศูนย์วัฒนฯ” แพงสุดวาละ 8.5 แสน ถูกสุด 1.2 แสนอยู่สถานี “มีนพัฒนา-เคหะราม-สุวินทวงศ์”
เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด
เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด
- 4 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อคอนโดมากที่สุด ได้แก่ ใจกลางเมือง, รัชดา-ลาดพร้าว, อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ และบางนา-เทพารักษ์
- ทำเลใจกลางเมือง (สีลม, สาทร, วัฒนา) เป็นอันดับหนึ่งที่ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมากที่สุดถึง 2,159 หน่วย โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ
- ทำเลรัชดา-ลาดพร้าวเป็นอันดับสอง โดยมีสัดส่วนการซื้อของชาวต่างชาติสูงถึง 67.9% ของยูนิตที่ขายได้ทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและเมียนมา
- ภาพรวมในปี 2567 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมือหนึ่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคิดเป็น 18% ของจำนวนยูนิตที่ขายได้ทั้งหมด
หลังจากช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา (พ.ศ.2563-2564) ต่างชาติก็กลับมาซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกันเป็นอันมาก เช่นเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 ในขณะที่กำลังซื้อของไทยโดยรวมตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สำรวจล่าสุดถึงสิ้นปี 2567 พบว่า ต่างชาติซื้อห้องชุดถึง 5,748 หน่วย จากการขายห้องชุดทั้งหมด 31,897 หน่วยที่เปิดขายโดยบริษัทพัฒนาที่ดิน (ไม่รวมห้องชุดมือสอง) หรืออาจกล่าวได้ว่า 18% ของห้องชุดมือหนึ่งทั้งหมดที่มีการซื้อขายกันในปี 2567 ซื้อโดยชาวต่างชาติ
แม้ต่างชาติจะซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในราคาที่สูงกว่าไทยก็ยังถือว่าไม่มากนัก ในกรณีของประเทศมาเลเซีย มีข้อกำหนดว่าต่างชาติจะซื้อห้องชุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านริงกิต หรือ 16 ล้านบาท หรือในอินโดนีเซียก็กำหนดให้ซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ประเทศไทยก็ควรกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต่างชาติจะซื้อได้ เพื่อว่าต่างชาติจะได้ไม่มาแย่งซื้อห้องชุดกับคนไทยที่มีฐานะด้อยกว่า หรือไทยอาจกำหนดคล้ายกับออสเตรเลีย ที่ให้ต่างชาติซื้อบ้านได้เฉพาะบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสองห้ามซื้อ เพื่อจะได้ไม่ทำให้ชาวออสเตรเลียเสียโอกาส
ทำเลที่ต่างชาติซื้อมากที่สุดได้แก่คือ ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ทำเล บางนา-เทพารักษ์ และทำเล ใจกลางเมือง โดยพบว่า
อันดับที่ 1ทำเล ใจกลางเมือง รวมสีลม สาทร บางรัก พหลโยธิช่วงต้น วัฒนา คลองเตย เป็นต้น โดยมีชาวต่างชาติซื้อมากถึง 2,159 หน่วยจากทั้งหมด 8,216 หน่วย รวมมูลค่า 25,140 ล้านบาท จากมูลค่าที่มีผู้ซื้อรวม 80,221 ล้านบาท หรือ 31.3% โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งประเทศตะวันตกและประเทศในเอเชีย
อันดับที่ 2 ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ต่างชาติซื้อ 1,974 หน่วย จาก 2,907 หน่วยที่มีผู้ซื้อไป กรณีนี้หมายความว่าชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในทำเลนี้ถึง 67.9% ของห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด ในแง่ของมูลค่า ชาวต่างชาติซื้อไปถึง 8,452 ล้านบาท จาก 11,523 ล้านบาท หรือ 73.3% ของทั้งหมด และกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาซื้อในพื้นที่นี้ก็เป็นคนจีน และเมียนมา
อันดับที่ 3 ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ โดยชาวต่างชาติซื้อไป 536 หน่วยจากทั้งหมด 1,847 หน่วย หรือ 29% ของทั้งหมด มูลค่ารวมที่ชาวต่างชาติซื้อเป็นเงิน 2,445 ล้านบาท จากทั้งหมด 4,890 หน่วย หรือ 50% ทำเลนี้ก็มีคนจีนมาซื้อมากเป็นพิเศษเช่นกัน
ทำเลที่ 4บางนา-เทพารักษ์ ต่างชาติซื้อ 486 หน่วย หรือ 13.4% ของทั้งหมด รวมมูลค่า 1,620 ล้านบาท หรือ 15.2% ของทั้งหมด โดยในทำเลนี้ กลุ่มผู้ซื้อยังเป็นคนจีนและชาวเมียนมารัฐบาลควรกำหนดให้ต่างชาติซื้อห้องชุดในพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นสำคัญ
เพื่อจะได้ไม่ไปซื้อเปะปะ เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติด้วย ที่สำคัญ ห้องชุดที่ขายให้ชาวต่างชาติควรมาจากการจับฉลาก ไม่ควรให้ชาวต่างชาติอยู่รวมกันในชั้นหรือห้องติดๆ กันเพราะจะเป็นการแยกกลุ่มย่อย ในประเทศสิงคโปร์ ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน มาเลย์หรืออินเดีย ก็ต้องจับฉลากเพื่อให้การอยู่อาศัยปะปนกัน เพื่อการผสานทางวัฒนธรรมด้วย
กรณีที่ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างมีแรงจูงใจที่แตกต่างกัน เช่น
1. มุ่งขยายอิทธิพลสู่นอกประเทศและเป็นการส่งออกประชากรไป มายึดหัวหาด ในประเทศต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งแอฟริกาและอเมริกาใต้
2. รัสเซียและยูเครนด่าง ‘หนีตาย‘ จากสงคราม หนีการเกณฑ์ทหารและตั้งใจมาตั้งรกรากในประเทศไทย
3. กรณีเมียนมา ชาวเมียนมาร์ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ต่างพยายามหนีมาอยู่ประเทศไทยและเพื่อนบ้านอื่นเพราะมองว่าระบบเผด็จการทหารทำให้ประเทศของตนไร้อนาคตอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจากกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ อาจเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตัวเลขต่อไปนี้
1. ชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2567 เป็นเงิน 39,640 ล้านบาท
2. ประมาณการณ์ว่าหากรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นด้วย เช่นบ้านแนวราบมูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% เพราะชาวต่างชาติส่วนมากจะซื้อห้องชุดเป็นสำคัญ โดยค่าเงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 51,532 ล้านบาท
3. การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในจังหวัดภูมิภาคด้วย ซึ่งส่วนมากจะเป็นจังหวัดหลักด้านการท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน หาดใหญ่ เป็นต้น มูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% เป็นเงินรวมกันประมาณ 87,604 ล้านบาท หรืออย่างมากไม่เกิน 100,000 ล้านบาท
4. เมื่อเทียบกับการขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเป็นเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท ต่างชาติก็ซื้อเป็นเพียง 10% เท่านั้น
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ขายให้กับชาวต่างชาติ อาจกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เท่าที่ควรหรือไม่มีประสิทธิผลนั่นเองอย่างไรก็ตามหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอสังหาริมทรัพย์ควรส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคประเภทต่างๆ และควรมีการจัดเก็บภาษีการซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเช่นนานาอารยประเทศ ได้แก่
1. เก็บภาษีการซื้อบ้านและห้องชุดของชาวต่างชาติ ในอัตราประมาณ 10% ถึง 20% ทั้งนี้ในยุโรปจัดเก็บเกือบ 20% ฮ่องกง 30% และสิงคโปร์ 60% จะได้นำเงินมาพัฒนาประเทศ
2. จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับบ้านและห้องชุดตามราคาตลาดเฉพาะชาวต่างประเทศเฉกเช่นคนไทยต้องเสียภาษีในการไปซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศ โดยจัดเก็บประมาณ 1% ของราคาตลาดทุกปี
3. การจัดเก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ Capital Gain Tax ประมาณ 10% ถึง 20% ของส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อกับราคาที่ขายตามราคาตลาด
4. ภาษีกองมรดก ประมาณ 10% ของมูลค่ากองมรดก เป็นต้น
มีการจัดเก็บภาษีตามนานาอารยะประเทศเช่นนี้ ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แม้จะไม่มากนักก็ตาม
เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 %
ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"
และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!
วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568
เวลา 13.00 - 16.00 น.
สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8
คลิกลงทะเบียน : https://bit.ly/3nANsQr
สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : @Tooktee >> https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w
ทำเลบางซื่อ - ทำเลคอนโดขายดี กลางปี 2563
จากงานสัมมนาทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ณ กลางปีพ.ศ. 2563 ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (AREA) ซึ่งจัดการสัมมนาวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จากข้อมูลพบว่า ทำเลบางซื่อ (C4) เป็นทำเลคอนโดขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีอัตราการขายคอนโดต่อพื้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดที่มีระดับราคา 2-3 ล้านบาท.ขอบเขตทำเลบางซื่อ (จากคำจำกัดความของ AREA) อยู่ตั้งแต่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ขวา) บริเวณเหนือกรุงเทพชั้นใน ไปจรดเขตกรุงเทพฯ ฝั่งทางเหนือ โดยมีเส้นถนนเส้นหลักในพื้นที่ได้แก่ ถนนพระราม 6, ถนนประชาราษฎร์สาย 1, ถนนประชาราษฎร์สาย 2, ถนนประชาชื่น (เลียบคลองประปา) และปลายถนนรัชดาภิเษก ที่ไปเชื่อมต่อกับถนนวงศ์สว่าง. ที่มา: ทีมงาน Tooktee.comทำเลบางซื่อ คือ ??? เป็นทำเลที่มีความหลากหลายในการใช้พื้นที่ เช่น สถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) พื้นที่หน่วยงานทางการทหาร พื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ (SCG และปูนซีเมนต์ไทย) รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ การพัฒนาระบบคมนาคมในพื้นที่หลัก ๆ ที่น่าสนใจ คือ บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านการคมนาคมยุคใหม่ของกรุงเทพฯ ตามแผนการพัฒนาจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีแดงอ่อน รวมไปถึงสาย Airport Link ที่จะเชื่อมต่อท่าอากาศยานระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พาดเชื่อมกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ นับว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ทำให้ภาพรวมทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองสถานีกลางบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณ ภาพจากประชาชาติธุรกิจอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ - สัปปายะสภาสภาน (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณภาพจาก Line Today. ทำไมทำเลบางซื่อนี้ถึงขายดี???เหตุผลจากการเป็น Hub ในด้านการคมนาคมในอนาคต และปัจจุบันยังสามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานี ดูโครงข่ายรถไฟฟ้า รวมไปถึงหากเป็นผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีเส้นทางด่วนต่าง ๆ ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์ ที่สามารถไปใช้บริการได้ในเวลาเร่งด่วนได้ กอปรกับ การเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้มีความต้องการคอนโดในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น .ช่วงราคาไหนถึงขายดี???จากฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้สำรวจและช่วงระดับราคาคอนโดที่ได้สำรวจออกเป็น 7 ระดับ ตั้งแต่ราคา 0.500-1.000 ล้านบาท/หน่วย ไปจนถึงราคามากกว่า 20 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งกลางปี พ.ศ.2561 พื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) พบว่าทำเลบางซื่อ เป็นทำเลที่มีการซื้อ-ขายคอนโดมากที่สุด เป็นอันดับ 1 โดยเป็นทำเลคอนโดขายดีในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท ที่มา : สรุปข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจากข้อมูลข้างต้นพบว่ามีการซื้อ-ขาย ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเท่ากับ 845 หน่วย คิดเป็นถึง 3% ของการขายทั้งหมดในพื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) หากวิเคราะห์คอนโดที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน นิยมพัฒนาบริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนประชาชื่น เป็นต้น โดยหากตั้งอยู่ติดเส้นถนนสายหลัก จะมีระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านบาท และหากอยู่ในทำเลซอยจะอยู่ที่ระดับราคาจะลดหลั่นลงมา ซึ่งหากคอนโดก่อสร้างบริเวณเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งขาเข้าเมืองนนทบุรี ก็จะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ คอนโดที่น่าสนใจในทำเล ได้แก่ ริชพาร์ค @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ และริชพาร์ค @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นต้น.นอกจากทำเลบางซื่อ ยังมีทำเลอื่นๆ ใกล้เคียง ก็มีความน่าสนใจเช่นเดียวกันทั้งทำเลวงแหวน-เพชรเกษม ทำเลบางกอกน้อย-บางใหญ่ และทำเลบางพลัด ซึ่งคอนโดที่น่าสนใจ จะอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาท และ 1-2 ล้านบาท ในอนาคตก็มีโอกาสติดอันดับทำเลคอนโดขายดีอันดับ 1 ได้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนทำเลคอนโดขายดีสุดๆ หรือไม่ อย่างไร.ในส่วนของเนื้อหาฉบับเต็มสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับhttp://www.area.co.th/
ทำเลพหลโยธิน-รามอินทรา
ทำเล พหลโยธิน-รามอินทรา ทำเลทองขายดี ทำเลศักยภาพสูง เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 63) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 64) ข้อมูลโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา เป็น 1 ใน 14 โซนใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วย 6 โซนย่อย ได้แก่ D1: สายไหม D2: สะพานใหม่ D3: บางบัว D4: ลาดปลาเค้า-มัยลาภ D5: วัชรพล-คู้บอน D6: สุขาภิบาล 1 ที่อยู่อาศัยอยู่ในโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา ตำแหน่งที่ตั้ง : ทำเล D พื้นที่ส่วนตอนบนของกรุงเทพฯก่อนเข้าเขตรังสิต (ปทุมธานี) ทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มคนทำงานท่าอากาศยานดอนเมือง (ทอ.) รวมไปถึงหน่วยงานราชการแลทหารในพื้นที่ ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูตต ทำให้สามารถรองรับกลุ่มคนทำงานในเมืองที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อย่างดี ขอบเขตด้านบนเป็นเส้นถนนสายไหมที่เชื่อมต่อมาจากเส้นถนนพหลโยธินยาวไปถึงบางส่วนของเส้นถนนหทัยราษฎร์ ด้านตะวันออกจรดถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) ทิศใต้จรดถนนประเสริฐมนูญกิจและฝั่งตะวันตกจรดถนนวิภาวดีรังสิต สัดส่วนประเภทที่อยู่อาศัยรวมพื้นที่ ที่อยู่อาศัยที่ยังเปิดขายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนหน่วยขายกว่า 70% ของหน่วยที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561) ราคาเฉลี่ยบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2560) ราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยต่อหน่วย บ้านเดี่ยว 9.166 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2.332 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยราคาทั้ง 14 โซนในกรุงเทพฯและปริมณฑล บ้านเดี่ยว 7.054 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 3.704 ล้านบาท สรุปภาพรวมตลาด ราคาเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 6 ราคาเฉลี่ยรวมในพื้นที่ สูงกว่า ของราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ยังเปิดขายอยู่ ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561 ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 14 ทำเล หมายเหตุ 1.การแบ่งวิเคราะห์ทำเลตลาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวน 14 ทำเล (ตั้งแต่ตัวอักษร A ถึง N) และแบ่งเป็นทำเลย่อยจากทำเลหลักรวมจำนวนทั้งสิ้น 78 พื้นที่ (Zone) เป็นการแบ่งทำเลโดยพิจารณาจากศักยภาพของพื้นที่ในด้านลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ รูปแบบการคมนาคม และสภาพภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ เป็นสำคัญ 2.ข้อมูลนำเสนอภาพรวมด้านตลาดที่อยู่อาศัย เป็นข้อมูลที่เกิดจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ใช้นำเสนอในเว็บไซต์ ทุกที่ (www.Tooktee.com) เนื้อหาข้อความ และรูปภาพนำเสนอต่างๆ ที่แสดงทั้งหมดถือเป็น ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท เอเจนซี่ ฟอ ร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เท่านั้น ห้ามมิให้บุคคลอื่น คัดลอก ดัดแปลง หรือ ทำซ้ำ หากมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัดโดยตรง
เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด
<h1 style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start">เปิด4อันดับทำเลทอง ต่างชาตินิยมซื้อคอนโดไทยในกทม.สูงสุด </h1> <ul style="margin-left:0px; margin-right:0px"> <li><span style="font-size:16px">4 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อคอนโดมากที่สุด ได้แก่ ใจกลางเมือง, รัชดา-ลาดพร้าว, อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ และบางนา-เทพารักษ์</span></li> <li><span style="font-size:16px">ทำเลใจกลางเมือง (สีลม, สาทร, วัฒนา) เป็นอันดับหนึ่งที่ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมากที่สุดถึง 2,159 หน่วย โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ</span></li> <li><span style="font-size:16px">ทำเลรัชดา-ลาดพร้าวเป็นอันดับสอง โดยมีสัดส่วนการซื้อของชาวต่างชาติสูงถึง 67.9% ของยูนิตที่ขายได้ทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและเมียนมา</span></li> <li><span style="font-size:16px">ภาพรวมในปี 2567 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมือหนึ่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคิดเป็น 18% ของจำนวนยูนิตที่ขายได้ทั้งหมด</span></li> </ul> <p> </p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">หลังจากช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา (พ.ศ.2563-2564) ต่างชาติก็กลับมาซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกันเป็นอันมาก เช่นเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 ในขณะที่กำลังซื้อของไทยโดยรวมตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (<a href="http://www.area.co.th/" rel="nofollow" style="box-sizing: border-box; outline: none; text-decoration: none; color: var(--tertiary-color); font-weight: 700;">www.area.co.th</a>) เปิดเผยผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สำรวจล่าสุดถึงสิ้นปี 2567 พบว่า ต่างชาติซื้อห้องชุดถึง 5,748 หน่วย จากการขายห้องชุดทั้งหมด 31,897 หน่วยที่เปิดขายโดยบริษัทพัฒนาที่ดิน (ไม่รวมห้องชุดมือสอง) หรืออาจกล่าวได้ว่า 18% ของห้องชุดมือหนึ่งทั้งหมดที่มีการซื้อขายกันในปี 2567 ซื้อโดยชาวต่างชาติ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">แม้ต่างชาติจะซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในราคาที่สูงกว่าไทยก็ยังถือว่าไม่มากนัก ในกรณีของประเทศมาเลเซีย มีข้อกำหนดว่าต่างชาติจะซื้อห้องชุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านริงกิต หรือ 16 ล้านบาท หรือในอินโดนีเซียก็กำหนดให้ซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">ประเทศไทยก็ควรกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต่างชาติจะซื้อได้ เพื่อว่าต่างชาติจะได้ไม่มาแย่งซื้อห้องชุดกับคนไทยที่มีฐานะด้อยกว่า หรือไทยอาจกำหนดคล้ายกับออสเตรเลีย ที่ให้ต่างชาติซื้อบ้านได้เฉพาะบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสองห้ามซื้อ เพื่อจะได้ไม่ทำให้ชาวออสเตรเลียเสียโอกาส</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="background-color:#ffffff; color:#000000; font-size:20px">ทำเลที่ต่างชาติซื้อมากที่สุดได้แก่คือ ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ ทำเล บางนา-เทพารักษ์ และทำเล ใจกลางเมือง โดยพบว่า</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> <div style="text-align:start"> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px"><span style="font-size:16px">อันดับที่ 1ทำเล ใจกลางเมือง รวมสีลม สาทร บางรัก พหลโยธิช่วงต้น วัฒนา คลองเตย เป็นต้น โดยมีชาวต่างชาติซื้อมากถึง 2,159 หน่วยจากทั้งหมด 8,216 หน่วย รวมมูลค่า 25,140 ล้านบาท จากมูลค่าที่มีผู้ซื้อรวม 80,221 ล้านบาท หรือ 31.3% โดยผู้ซื้อมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งประเทศตะวันตกและประเทศในเอเชีย</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px"><span style="font-size:16px">อันดับที่ 2 ทำเล รัชดา-ลาดพร้าว ต่างชาติซื้อ 1,974 หน่วย จาก 2,907 หน่วยที่มีผู้ซื้อไป กรณีนี้หมายความว่าชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในทำเลนี้ถึง 67.9% ของห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด ในแง่ของมูลค่า ชาวต่างชาติซื้อไปถึง 8,452 ล้านบาท จาก 11,523 ล้านบาท หรือ 73.3% ของทั้งหมด และกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาซื้อในพื้นที่นี้ก็เป็นคนจีน และเมียนมา</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">อันดับที่ 3 ทำเล อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ โดยชาวต่างชาติซื้อไป 536 หน่วยจากทั้งหมด 1,847 หน่วย หรือ 29% ของทั้งหมด มูลค่ารวมที่ชาวต่างชาติซื้อเป็นเงิน 2,445 ล้านบาท จากทั้งหมด 4,890 หน่วย หรือ 50% ทำเลนี้ก็มีคนจีนมาซื้อมากเป็นพิเศษเช่นกัน</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">ทำเลที่ 4บางนา-เทพารักษ์ ต่างชาติซื้อ 486 หน่วย หรือ 13.4% ของทั้งหมด รวมมูลค่า 1,620 ล้านบาท หรือ 15.2% ของทั้งหมด โดยในทำเลนี้ กลุ่มผู้ซื้อยังเป็นคนจีนและชาวเมียนมารัฐบาลควรกำหนดให้ต่างชาติซื้อห้องชุดในพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นสำคัญ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">เพื่อจะได้ไม่ไปซื้อเปะปะ เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติด้วย ที่สำคัญ ห้องชุดที่ขายให้ชาวต่างชาติควรมาจากการจับฉลาก ไม่ควรให้ชาวต่างชาติอยู่รวมกันในชั้นหรือห้องติดๆ กันเพราะจะเป็นการแยกกลุ่มย่อย ในประเทศสิงคโปร์ ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน มาเลย์หรืออินเดีย ก็ต้องจับฉลากเพื่อให้การอยู่อาศัยปะปนกัน เพื่อการผสานทางวัฒนธรรมด้วย</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px"><strong>กรณีที่ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างมีแรงจูงใจที่แตกต่างกัน เช่น</strong></span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">1. มุ่งขยายอิทธิพลสู่นอกประเทศและเป็นการส่งออกประชากรไป มายึดหัวหาด ในประเทศต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งแอฟริกาและอเมริกาใต้</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">2. รัสเซียและยูเครนด่าง ‘หนีตาย‘ จากสงคราม หนีการเกณฑ์ทหารและตั้งใจมาตั้งรกรากในประเทศไทย</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">3. กรณีเมียนมา ชาวเมียนมาร์ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ต่างพยายามหนีมาอยู่ประเทศไทยและเพื่อนบ้านอื่นเพราะมองว่าระบบเผด็จการทหารทำให้ประเทศของตนไร้อนาคตอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจากกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ อาจเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตัวเลขต่อไปนี้</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">1. ชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2567 เป็นเงิน 39,640 ล้านบาท</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">2. ประมาณการณ์ว่าหากรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นด้วย เช่นบ้านแนวราบมูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% เพราะชาวต่างชาติส่วนมากจะซื้อห้องชุดเป็นสำคัญ โดยค่าเงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 51,532 ล้านบาท</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">3. การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในจังหวัดภูมิภาคด้วย ซึ่งส่วนมากจะเป็นจังหวัดหลักด้านการท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน หาดใหญ่ เป็นต้น มูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% เป็นเงินรวมกันประมาณ 87,604 ล้านบาท หรืออย่างมากไม่เกิน 100,000 ล้านบาท</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">4. เมื่อเทียบกับการขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเป็นเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท ต่างชาติก็ซื้อเป็นเพียง 10% เท่านั้น</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ขายให้กับชาวต่างชาติ อาจกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เท่าที่ควรหรือไม่มีประสิทธิผลนั่นเองอย่างไรก็ตามหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอสังหาริมทรัพย์ควรส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคประเภทต่างๆ และควรมีการจัดเก็บภาษีการซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเช่นนานาอารยประเทศ ได้แก่</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">1. เก็บภาษีการซื้อบ้านและห้องชุดของชาวต่างชาติ ในอัตราประมาณ 10% ถึง 20% ทั้งนี้ในยุโรปจัดเก็บเกือบ 20% ฮ่องกง 30% และสิงคโปร์ 60% จะได้นำเงินมาพัฒนาประเทศ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">2. จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับบ้านและห้องชุดตามราคาตลาดเฉพาะชาวต่างประเทศเฉกเช่นคนไทยต้องเสียภาษีในการไปซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศ โดยจัดเก็บประมาณ 1% ของราคาตลาดทุกปี</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px"> 3. การจัดเก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ Capital Gain Tax ประมาณ 10% ถึง 20% ของส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อกับราคาที่ขายตามราคาตลาด</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">4. ภาษีกองมรดก ประมาณ 10% ของมูลค่ากองมรดก เป็นต้น</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:16px">มีการจัดเก็บภาษีตามนานาอารยะประเทศเช่นนี้ ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แม้จะไม่มากนักก็ตาม</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> </div> <h2>เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 % </h2> <p><a href="https://www.tooktee.com/agent/seminar/37/#seminar-ad-modal"><img alt="Tooktee Live" src="https://imgtooktee.files.wordpress.com/2022/05/ad.6.png" style="height:225px; width:500px" /></a></p> <h3><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529">ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"</span></span></h3> <h3><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529">และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!</span></span></h3> <p><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529"><img alt="??" src="https://lh7-us.googleusercontent.com/0LkTScmc4aqA-0vOukLOj8vW1P3uMMgmlFUqYMXa3v182lCRildVIEPoksjjL_YNGGpblwzKk6HCxrcRFpTI3SmA9yzw0USXnK2iZYh1d1dQ2QNakj6EZul6WhLcC0zEH9BKHrLLKMe_zMWd" style="height:16px; margin-left:0px; margin-top:0px; width:16px" /></span><span style="background-color:transparent; color:#212529"> วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568</span></span></p> <p><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529"><img alt="??" src="https://lh7-us.googleusercontent.com/yE_hnc8agktXqfm6ubgWydc3EIRpAawDgIO913T6dZs4LRbNGhzkruu95M-ONfr2d5RFhFM5uArttKG5y40Wh5quMz1RbDbzrN2euqGpDvTzgUyH7XGUj-pUFx01KpxeJoEuLc_5FONIXUkZ" style="height:16px; margin-left:0px; margin-top:0px; width:16px" /></span><span style="background-color:transparent; color:#212529"> เวลา 13.00 - 16.00 น.</span></span></p> <p><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529">สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8 </span></span></p> <p><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529">คลิกลงทะเบียน : </span><a href="https://www.tooktee.com/agent/seminar/37/" style="text-decoration:none;"><span style="background-color:transparent; color:#e74c3c">https://bit.ly/3nANsQr</span></a></span></p> <p><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#212529">สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : @Tooktee >> </span><a href="https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w" style="text-decoration:none;"><span style="background-color:transparent; color:#e74c3c">https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w</span></a></span></p> <p> </p>
Why TOOKTEE?
Many discounts from Tooktee.com throughout the year.
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติม