ย่าน ลาดพร้าวตอนปลาย ลาดพร้าว 101 แฮปปี้แลนด์ เดอะมอลล์บางกะปิ เทพลีลา-มหาดไทย
ทั้งหมด
ล่าสุด 08/04/68
คอนโดมิเนียม
ล่าสุด 23/08/67
คอนโดมิเนียม
ล่าสุด 09/08/67
คอนโดมิเนียม
ทำเลยอดนิยม
คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลที่ยังบูมอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน
คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลที่ยังบูมอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบันย่านที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเมื่อสมัย 10 ปีที่แล้ว คำที่คุ้นหูจะเป็นคำว่า อโศก-รัชดา มากกว่า แต่ปัจจุบัน ด้านขีดความสามารถหรือโอกาสในการเติบโต ต้องยกให้ย่าน รัชดา-ลาดพร้าว เป็นย่านที่บูมอย่างต่อเนืื่อง เนื่องจากเป็นย่านที่ครับครันด้านต่าง ๆ ดังนี้ด้านการทำงาน (Work) เนื่องจากมีแหล่งออฟฟิศ เกรด A มากมาย พัฒนาในย่านนี้ตามแนวเส้นถนนรัชดาภิเษก ทั้ง เอไอเอ แคปิตอลเซ็นเตอร์, อาคารเดอะไนท์ รวมไปถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ย้ายจากทำเลบริเวณคลองเตย มาอยู่ที่จุดนี้ นอกจากนี้ในอนาคตยังมี Mega project ที่เป็นแหล่งงานเกิดขึ้นคือ โครงการ The Super Tower ตึกที่จะพัฒนาให้สูงที่สุดในประเทศไทย ที่อยู่ภายในโครงการของกลุ่ม G Land ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาได้เข้าซื้อกิจการไป จะทำให้ย่านรัชดา-ลาดพร้าวนี้ เพิ่มความเป็นแหล่งงานมากขึ้นไปอีกขั้นนึงภาพจาก http://www.painaidii.com/ด้านแหล่งท่องเที่ยว ช๊อปปิ้ง (Play) กล่าวได้ว่าตลอดเส้นถนนรัชดา-ลาดพร้าว จะมีห้างร้านชั้นนำ ทั้งในกลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มสยาม ฟิวเจอร์ ที่เป็นเจ้าตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงกลุ่มรายอื่น ๆ ที่พัฒนานี้ด้วยเช่นกัน ทั้ง ศูนย์การค้า The Street รัชดา ที่มีจุดเด่นด้านมีร้านค้าที่เปิดบริการตลอด 24 ชม. สวนลุมไนท์บาซาร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว รวมไปถึงตลาดนัดต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ เช่น ตลาดนัดรถไฟรัชดา ตลาดห้วยขวาง และ ตลาดอินดี้ โชคชัย 4 เป็นต้น จะทำให้การอยู่ในทำเลนี้ทั้งกลางวันและช่วงกลางคืน ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป.เมื่อครบทั้งด้านการทำงานและแหล่งช๊อปปิ้งแล้ว เรื่องการอยู่อาศัย (Stay) ก็จะตามมาซึ่งเรียกได้ว่าทำเลรัชดา-ลาดพร้าวนี้ ครบจบในที่เดียว ซึ่งถึงแม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นอาคารชุด จะได้ผลกระทบจากโควิด 19 ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากระดับราคาค่อนข้างหลากหลายทั้งต่ำ-ปานกลาง-สูง เนื่องจากมีถนนเส้นหลัก (รัชดา-ลาดพร้าว) และถนนซอยย่อยที่เชื่อมต่อทะลุระหว่างถนนเส้นหลักได้ จึงมีความน่าสนใจที่จะซื้อ-เช่า ภาพจาก https://www.mrta.co.th/รวมไปถึงในอนาคตการเดินทางในพื้นที่จะสะดวกมากยิ่งขึ้น จากการที่ปัจจุบันมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ที่จะพัฒนาเชื่อมต่อพื้นที่ย่านรัชดา-ลาดพร้าวให้ใกล้กันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อไปถึงบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย (ย่านสำโรง) ได้ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ ในปี 2564.จึงถือได้ว่า รัชดา-ลาดพร้าว เป็นถิ่นที่เหมาะแก่การ work play stay มากแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทีเดียว.โดยเทรนด์การเติบโตของราคาขาย หากเป็นโครงการ Low-rise เปิดขายใหม่ในปี 2563 เช่น โครงการ ควินทารา คีเนท รัชดา 12, เดอะ โมเมนต์ รัชดา 19 เป็นต้น จะมีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 70,000 - 80,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเมื่อย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2562) เช่น โครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 เปิดราคาขายประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือได้ว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง เนื่องจากแปลงที่ดินพัฒนาเป็นแปลงขนาดเล็ก เข้าไปในซอย มีที่ดินรอการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก.แตกต่างกับโครงการ High-rise ติดถนนใหญ่ (ถนนรัชดา-ลาดพร้าว) ที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมา (ปี 2562) ที่มีการเติบโตของราคาที่ดีกว่า ตัวอย่างเช่น โครงการ ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ รัชดา เปิดที่ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม. เปรียบเทียบกับโครงการไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร ที่เปิดขายมาก่อนหน้า ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม. ที่พัฒนาบนเส้นถนนเส้นเดียวกัน.ซึ่งหากใครต้องการซื้อลงทุน ทางทีมงาน Tooktee.com แนะนำให้ซื้อโครงการ High-rise จะเหมาะสมกว่าเนื่องจากมีโอกาสเติบโตราคาที่สูงในอนาคต เนื่องจากที่ดินแปลงใหญ่ ๆ ติดถนนหลักในพื้นที่เริ่มมีน้อยและราคาแพง .ในส่วนของคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เพื่อความสะดวกสบายเวลาทำงาน ก็แนะนำเป็นโครงการ Low-rise เนื่องจากมีระดับราคาขายต่อห้องประมาณ 2 ล้านปลาย ๆ ไปจนถึงราคา 3 ล้านต้น ๆ แบบ 1 ห้องนอนในตลาดมีให้เลือกช๊อปเป็นจำนวนมากแนะนำคอนโดรัชดา-ลาดพร้าวแฮปปี้คอนโด แอนด์ สปอร์ตคลับ (1.60 ล้านบาท)ดิ ยูนีค รัชดา 19 (2.37 ล้านบาท)ชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 19 (2.4 ล้านบาท)คอนโด 624 คอนโดเลต รัชดา 36 (2.89 ล้านบาท)ทรี คอนโด ซ.ลาดพร้าว 27 (4.56 ล้านบาท)1.แฮปปี้คอนโด แอนด์ สปอร์ตคลับประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้น 2 อาคารจุดเด่น : ใกล้ MRT สถานีสุทธิสาร เพียง 2 กม. และ 3 กม. จากตลาดนัดรถไฟรัชดาที่ตั้ง : ซ.20 มิถุนา, ถ.สุทธิสารวินิจฉัย, แขวงสามเสนนอก, เขตห้วยขวาง, กรุงเทพมหานครราคา : 1,601,000.-ขนาด : 28 ตร.มหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7854/1/28655/TAG : #คอนโด20มิถุนา #คอนโดสุทธิสาร2.ดิ ยูนีค รัชดา 19ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : 500 เมตร ถึง MRT รัชดาภิเษก เข้า-ออกได้ 3 เส้นทางหลักที่ตั้ง : ซ.รัชดาภิเษก 19, ถ.รัชดาภิเษก, แขวงจอมพล, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 2,379,300.-ขนาด : 34.49 ตร.ม.โปรโมชั่น : ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2328/1/30712/TAG : #คอนโดรัชดา19 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว3.ชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 19ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : 100 เมตร ถึง MRT รัชดาภิเษก เข้า-ออกได้ 3 เส้นทางหลัก ห่างจากยูเนี่ยน มอลล์ 2.8 กม.ที่ตั้ง : ถ.รัชดาภิเษก, แขวงดินแดง, เขตดินแดง, กรุงเทพมหานครราคา : 2,400,000.-ขนาด : 31.9 ตร.ม.หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2327/1/25296/TAG : #คอนโดรัชดา19 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว4.คอนโด 624 คอนโดเลต รัชดา 36ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : ใกล้ SCB Park ห่างจาก MRT ลาดพร้าว 2 กม. และจากเมเจอร์ รัชโยธิน 1.5 กิโลเมตรที่ตั้ง : ซ.รัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ), ถ.รัชดาภิเษก, แขวงจันทรเกษม, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 2,892,600.-ขนาด : 48 ตร.มหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2375/1/28659/TAG : #คอนโดรัชดา36 #คอนโดซอยเสือใหญ่ #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าว5.ทรี คอนโด ซ.ลาดพร้าว 27ประเภท : คอนโด Low-rise 8 ชั้นจุดเด่น : ใกล้ทั้ง MRT และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างจากยูเนี่ยนมอลล์ เพียง 2.7 กม.ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 27 , ถ.ลาดพร้าว, แขวงจันทรเกษม, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 4,560,000.-ขนาด : 70 ตร.ม.หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7843/1/28638/TAG : #คอนโดลาดพร้าว 27 #คอนโดรัชดา-ลาดพร้าวนอกจากโครงการคอนโดรัชดา-ลาดพร้าว หากท่านในสนใจโครงการแนวราบ บ้านรัชดา-ลาดพร้าว Tootkee.com มีโครงการมาแนะนำสามารถเลือกดูได้ เรียงตามระดับราคา ดังนี้.แนะนำบ้านรัชดา-ลาดพร้าวสิริเฮ้าส์ รัชดา 18 (5.49 ล้านบาท)เธอ ลาดพร้าว 93 (9.1 ล้านบาท)บ้านเดี่ยว โชคชัย 4 (12.6 ล้านบาท)อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 (28.5 ล้านบาท)เดอะเจนทริ เอกมัย–ลาดพร้าว (31.0ล้านบาท)1.สิริเฮ้าส์ รัชดา 18ประเภท : ทาวน์โฮมราคาถูกจุดเด่น : เพียง 12 นาที ถึง MRT ห้วยขวาง บ้านในเมืองราคาเข้าถึงได้ที่ตั้ง : ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ, แขวงสามเสนนอก, เขตห้วยขวาง, กรุงเทพมหานครราคา : 5,490,000.-ขนาด : ที่ดิน 19.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 172.35 ตร.ม. โปรโมชั่น : ติดวอลเปเปอร์หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2561/1/26703/TAG : #ทาวน์โฮมใจกลางเมือง #ทาวน์โฮมรัชดา-ลาดพร้าว 2.เธอ ลาดพร้าว 93ประเภท : ทาวน์โฮม 3 ชั้นจุดเด่น : ทาวน์โฮมใหม่ใจกลางลาดพร้าว แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างบิ๊กซีลาดพร้าว เพียง 1.5 กม.ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 93, ถ.ลาดพร้าว, แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานครราคา : 9,107,000.-ขนาด : 22.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 223.23 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7858/1/28717/TAG : #ทาวน์โฮมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง #ทาวน์โฮม3ชั้น3.บ้านเดี่ยว โชคชัย 4ประเภท : บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจุดเด่น : บ้านเดี่ยวแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใกล้เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ และห้าง CDCที่ตั้ง : ซ.โชคชัย 4 ซอย 51, ถ.ลาดพร้าว-วังหิน, แขวงลาดพร้าว, เขตลาดพร้าว, กรุงเทพมหานครราคา : 12,600,000.-ขนาด : ที่ดิน 54 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/7698/1/26021/TAG : #บ้านลาดพร้าว-วังหิน3ชั้น #บ้านรัชดา-ลาดพร้าว4.อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24ประเภท : บ้านเดี่ยวหรูพร้อมสระ รัชดา-ลาดพร้าว จุดเด่น : บ้านเดี่ยว Super Luxury พร้อม Private Pool ที่สุดแห่งทำเลใจกลางเมือง ใกล้แยกรัชโยธิน และ MRT พหลโยธิน 24ที่ตั้ง : ซ.พหลโยธิน 24, ถ.พหลโยธิน, แขวงจอมพล, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานครราคา : 28,500,000.-ขนาด : ที่ดิน 64 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม. โปรโมชั่น : พร้อมโซฟา และโต๊ะทานข้าวหน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2404/1/25958/TAG : #บ้านเดี่ยวหรู #บ้านรัชดา-ลาดพร้าว 5.เดอะเจนทริ เอกมัย–ลาดพร้าว ประเภท : บ้านหรู 3 ชั้นจุดเด่น : 750 ม. จากถนนลาดพร้าว (แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง) เพียง 800 เมตร จากศูนย์การค้า the SCENEที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 94, ถ.ลาดพร้าว, แขวงพลับพลา, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานครราคา : 31,000,000.-ขนาด : 61.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. หน่วยที่เปิดขาย : https://www.tooktee.com/project/2580/1/26010/TAG : #บ้านเดี่ยวหรู #บ้านรัชดา-ลาดพร้าวสอบถามหน่วยขายเพิ่มเติมผ่าน Line : http://line.me/ti/p/~@tooktee หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125
ทำเลบางซื่อ - ทำเลคอนโดขายดี กลางปี 2563
จากงานสัมมนาทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ณ กลางปีพ.ศ. 2563 ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (AREA) ซึ่งจัดการสัมมนาวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จากข้อมูลพบว่า ทำเลบางซื่อ (C4) เป็นทำเลคอนโดขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีอัตราการขายคอนโดต่อพื้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดที่มีระดับราคา 2-3 ล้านบาท.ขอบเขตทำเลบางซื่อ (จากคำจำกัดความของ AREA) อยู่ตั้งแต่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ขวา) บริเวณเหนือกรุงเทพชั้นใน ไปจรดเขตกรุงเทพฯ ฝั่งทางเหนือ โดยมีเส้นถนนเส้นหลักในพื้นที่ได้แก่ ถนนพระราม 6, ถนนประชาราษฎร์สาย 1, ถนนประชาราษฎร์สาย 2, ถนนประชาชื่น (เลียบคลองประปา) และปลายถนนรัชดาภิเษก ที่ไปเชื่อมต่อกับถนนวงศ์สว่าง. ที่มา: ทีมงาน Tooktee.comทำเลบางซื่อ คือ ??? เป็นทำเลที่มีความหลากหลายในการใช้พื้นที่ เช่น สถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) พื้นที่หน่วยงานทางการทหาร พื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ (SCG และปูนซีเมนต์ไทย) รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ การพัฒนาระบบคมนาคมในพื้นที่หลัก ๆ ที่น่าสนใจ คือ บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านการคมนาคมยุคใหม่ของกรุงเทพฯ ตามแผนการพัฒนาจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีแดงอ่อน รวมไปถึงสาย Airport Link ที่จะเชื่อมต่อท่าอากาศยานระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พาดเชื่อมกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ นับว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ทำให้ภาพรวมทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองสถานีกลางบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณ ภาพจากประชาชาติธุรกิจอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ - สัปปายะสภาสภาน (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณภาพจาก Line Today. ทำไมทำเลบางซื่อนี้ถึงขายดี???เหตุผลจากการเป็น Hub ในด้านการคมนาคมในอนาคต และปัจจุบันยังสามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานี ดูโครงข่ายรถไฟฟ้า รวมไปถึงหากเป็นผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีเส้นทางด่วนต่าง ๆ ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์ ที่สามารถไปใช้บริการได้ในเวลาเร่งด่วนได้ กอปรกับ การเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้มีความต้องการคอนโดในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น .ช่วงราคาไหนถึงขายดี???จากฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้สำรวจและช่วงระดับราคาคอนโดที่ได้สำรวจออกเป็น 7 ระดับ ตั้งแต่ราคา 0.500-1.000 ล้านบาท/หน่วย ไปจนถึงราคามากกว่า 20 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งกลางปี พ.ศ.2561 พื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) พบว่าทำเลบางซื่อ เป็นทำเลที่มีการซื้อ-ขายคอนโดมากที่สุด เป็นอันดับ 1 โดยเป็นทำเลคอนโดขายดีในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท ที่มา : สรุปข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจากข้อมูลข้างต้นพบว่ามีการซื้อ-ขาย ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเท่ากับ 845 หน่วย คิดเป็นถึง 3% ของการขายทั้งหมดในพื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) หากวิเคราะห์คอนโดที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน นิยมพัฒนาบริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนประชาชื่น เป็นต้น โดยหากตั้งอยู่ติดเส้นถนนสายหลัก จะมีระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านบาท และหากอยู่ในทำเลซอยจะอยู่ที่ระดับราคาจะลดหลั่นลงมา ซึ่งหากคอนโดก่อสร้างบริเวณเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งขาเข้าเมืองนนทบุรี ก็จะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ คอนโดที่น่าสนใจในทำเล ได้แก่ ริชพาร์ค @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ และริชพาร์ค @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นต้น.นอกจากทำเลบางซื่อ ยังมีทำเลอื่นๆ ใกล้เคียง ก็มีความน่าสนใจเช่นเดียวกันทั้งทำเลวงแหวน-เพชรเกษม ทำเลบางกอกน้อย-บางใหญ่ และทำเลบางพลัด ซึ่งคอนโดที่น่าสนใจ จะอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาท และ 1-2 ล้านบาท ในอนาคตก็มีโอกาสติดอันดับทำเลคอนโดขายดีอันดับ 1 ได้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนทำเลคอนโดขายดีสุดๆ หรือไม่ อย่างไร.ในส่วนของเนื้อหาฉบับเต็มสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับhttp://www.area.co.th/
ทำเลพหลโยธิน-รามอินทรา
ทำเล พหลโยธิน-รามอินทรา ทำเลทองขายดี ทำเลศักยภาพสูง เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 63) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 64) ข้อมูลโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา เป็น 1 ใน 14 โซนใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วย 6 โซนย่อย ได้แก่ D1: สายไหม D2: สะพานใหม่ D3: บางบัว D4: ลาดปลาเค้า-มัยลาภ D5: วัชรพล-คู้บอน D6: สุขาภิบาล 1 ที่อยู่อาศัยอยู่ในโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา ตำแหน่งที่ตั้ง : ทำเล D พื้นที่ส่วนตอนบนของกรุงเทพฯก่อนเข้าเขตรังสิต (ปทุมธานี) ทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มคนทำงานท่าอากาศยานดอนเมือง (ทอ.) รวมไปถึงหน่วยงานราชการแลทหารในพื้นที่ ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูตต ทำให้สามารถรองรับกลุ่มคนทำงานในเมืองที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อย่างดี ขอบเขตด้านบนเป็นเส้นถนนสายไหมที่เชื่อมต่อมาจากเส้นถนนพหลโยธินยาวไปถึงบางส่วนของเส้นถนนหทัยราษฎร์ ด้านตะวันออกจรดถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) ทิศใต้จรดถนนประเสริฐมนูญกิจและฝั่งตะวันตกจรดถนนวิภาวดีรังสิต สัดส่วนประเภทที่อยู่อาศัยรวมพื้นที่ ที่อยู่อาศัยที่ยังเปิดขายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนหน่วยขายกว่า 70% ของหน่วยที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561) ราคาเฉลี่ยบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2560) ราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยต่อหน่วย บ้านเดี่ยว 9.166 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2.332 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยราคาทั้ง 14 โซนในกรุงเทพฯและปริมณฑล บ้านเดี่ยว 7.054 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 3.704 ล้านบาท สรุปภาพรวมตลาด ราคาเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 6 ราคาเฉลี่ยรวมในพื้นที่ สูงกว่า ของราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ยังเปิดขายอยู่ ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561 ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 14 ทำเล หมายเหตุ 1.การแบ่งวิเคราะห์ทำเลตลาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวน 14 ทำเล (ตั้งแต่ตัวอักษร A ถึง N) และแบ่งเป็นทำเลย่อยจากทำเลหลักรวมจำนวนทั้งสิ้น 78 พื้นที่ (Zone) เป็นการแบ่งทำเลโดยพิจารณาจากศักยภาพของพื้นที่ในด้านลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ รูปแบบการคมนาคม และสภาพภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ เป็นสำคัญ 2.ข้อมูลนำเสนอภาพรวมด้านตลาดที่อยู่อาศัย เป็นข้อมูลที่เกิดจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ใช้นำเสนอในเว็บไซต์ ทุกที่ (www.Tooktee.com) เนื้อหาข้อความ และรูปภาพนำเสนอต่างๆ ที่แสดงทั้งหมดถือเป็น ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท เอเจนซี่ ฟอ ร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เท่านั้น ห้ามมิให้บุคคลอื่น คัดลอก ดัดแปลง หรือ ทำซ้ำ หากมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัดโดยตรง
AREA เปิดโพยที่ดินติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม “สถานีศูนย์วัฒนฯ” แพงสุดวาละ 8.5 แสน ถูกสุด 1.2 แสนอยู่สถานี “มีนพัฒนา-เคหะราม-สุวินทวงศ์”
อสังหาฯ เปิดเกมรุกโรงแรม เร่งปรับกลยุทธ์ ไม่หวั่นจีนหาย
ทุนใหญ่เร่งขยายพอร์ตโรงแรมรายได้ประจำ รับเทรนด์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่-การลงทุนยั่งยืนทั่วภูมิภาค อสังหาฯ ไม่หวั่นจีนหาย ขณะห้องพักสะสมทั่วประเทศ 703,751 ห้อง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมธุรกิจโรงแรมไทยเผชิญภาวะชะลอตัวบางส่วนจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ โดยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือประมาณ 16.68 ล้านคน โดยมีปัจจัยหลักมาจากตลาดจีนที่หดตัวแรงถึง 34.1% ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรายได้และอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ลงประกาศขายฟรีกับ Tooktee ลงฟรีได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ “อัตราการเข้าพักเฉลี่ย” ของโรงแรมทั่วประเทศกลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60.8%จากปีที่แล้วที่ 59.1% สะท้อนว่าความต้องการใช้บริการที่พักยังมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะในภูมิภาคท่องเที่ยวหลัก เช่น ภาคใต้ที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุดถึง 70.9% ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้มีการเพิ่มของจำนวนห้องพักสะสม แต่กลับมีอัตราเข้าพักลดลงเล็กน้อย -0.7% แสดงถึงการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะอุปทานส่วนเกินที่เริ่มชัดเจน
ด้านอุปทานในตลาดโรงแรมกลับอยู่ในช่วง “พักฐาน” โดยครึ่งปีแรกมีการขออนุญาตเปิดโรงแรมใหม่ทั่วประเทศเพียง 232 แห่ง รวม 8,946 ห้อง ลดลงจากปีก่อนกว่า 34.6% ทั้งจำนวนโรงแรมและห้องพัก สะท้อนการชะลอการลงทุนระยะสั้นของผู้ประกอบการเพื่อรอดูทิศทางตลาด ขณะที่โรงแรมที่เปิดให้บริการสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 16,369 แห่ง รวม 703,751 ห้อง ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน
ในอีกมุมหนึ่ง สัญญาณการลงทุนใหม่เริ่มกลับมาอย่างชัดเจนใน “ด้านการก่อสร้าง” โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้นถึง 29.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ -ปริมณฑลที่พุ่งสูงถึง 230.7% ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าทุนรายใหญ่กำลัง “วางหมากระยะยาว” รอจังหวะตลาดฟื้นเต็มตัว
จังหวัดที่มีการก่อสร้างโรงแรมมากที่สุดคือ ภูเก็ต ซึ่งมีพื้นที่อนุญาตกว่า 195,000 ตารางเมตร หรือเกือบหนึ่งในสามของทั้งประเทศ สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแห่งนี้ รองลงมาคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี กาญจนบุรี และพังงา ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญที่รองรับนักเดินทางต่างชาติ
ในมุมตลาดทุน การวิเคราะห์ของคุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ระบุว่า แม้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลงกว่า 35% แต่ไทยยังคงเป็นจุดหมายหลักของนักเดินทางจากประเทศอื่น เช่น อินเดีย รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งเพิ่มขึ้นเกิน 10% ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกยังได้รับแรงหนุนจากการบริโภคและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
นายนรศักดิ์ ศุภกรธนกิจ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนและการลงทุนของคุชแมนฯ ระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในภาคโรงแรมยังคงขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะโรงแรมแนว “ไลฟ์สไตล์” และ “บูทีคโฮเทล” ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่อย่างกลุ่ม Gen Z ซึ่งให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่าความหรูหราแบบเดิม การออกแบบจึงต้องสะท้อนอัตลักษณ์ ความยั่งยืน และดีไซน์เฉพาะตัวเพื่อตอบโจทย์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
กลุ่มทุนอสังหาฯ รายใหญ่เริ่มหันมาขยายพอร์ตสู่ “รายได้ประจำ” มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกซึ่งให้กระแสเงินสดระยะยาวในช่วงเศรษฐกิจผันผวน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดการร่วมทุน (Joint Venture) ระหว่างทุนไทยกับต่างชาติ เพื่อพัฒนาโรงแรมรูปแบบใหม่ในหัวเมืองท่องเที่ยวและเมืองรอง
ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีกก็ยังคงเดินหน้าเติบโตควบคู่ไปกับโรงแรม ด้วยแนวคิด “ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์” ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่ขายสินค้า แต่กลายเป็นจุดรวมของประสบการณ์กิน-เที่ยว-ช้อป ทำให้ภาคอสังหาฯ รายได้ประจำกลายเป็น “เครื่องยนต์คู่ขนาน” ที่ช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในช่วงฟื้นตัว
เมื่อมองไปถึงแนวโน้มข้างหน้า ภาพของตลาดโรงแรมไทยในปี 2569 อาจไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันด้านราคาหรือจำนวนห้องพักอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันด้านแนวคิด การสร้างแบรนด์ และความยั่งยืน ผู้ประกอบการที่ปรับตัวทันเทรนด์ “ประสบการณ์นำการตลาด” จะกลายเป็นผู้นำยุคใหม่ของอุตสาหกรรมนี้
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ดีเวลลอปเปอร์เริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่โดยมีแรงขับเคลื่อนหลายมิติ ตั้งแต่การกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ การสร้างกระแสเงินสดประจำจากรายได้ค่าห้องพักที่ช่วยรักษาสภาพคล่อง ไปจนถึงการใช้ประโยชน์จากที่ดินทำเลดีในเมืองให้เกิดมูลค่าสูงสุดผ่านโครงการผสมผสาน ขณะที่การผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โรงแรม รถหรู หรือแฟชั่น ช่วยยกระดับภาพลักษณ์และสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันกำลังระอุ
ทั้งนี้ เบื้องหลังโอกาสที่สดใสนี้ยังมีความท้าทายที่ต้องจับตา โดยเฉพาะต้นทุนการบริหารจัดการที่สูงขึ้น ทั้งค่าบุคลากร ระบบบริการ และการบำรุงรักษา รวมถึงความเสี่ยงจากความไม่สมดุลของอุปสงค์-อุปทาน หากอัตราการเข้าพักตํ่ากว่าคาดจะกลายเป็นภาระต้นทุนคงที่หนักหน่วง ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบโครงการแบบมิกซ์ยูสที่ไม่ลงตัวอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและสร้างความขัดแย้งระหว่างภาคส่วนต่างๆ ภายในโครงการเดียวกัน ส่วนดีเวลลอปเปอร์ที่มีภาระหนี้สูงอาจต้องเผชิญแรงกดดันทางการเงินหากรายได้จากโรงแรมไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ JLL เผยว่ามูลค่าการลงทุนในโรงแรมไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สูงถึงประมาณ 301 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9.8 พันล้านบาท และคาดว่าจะทะลุ 650 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปี สะท้อนความเชื่อมั่นของ
นักลงทุนที่มีต่อตลาดนี้ ประกอบกับข้อมูลจาก HospitalityNet ที่ระบุว่าความต้องการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์เนมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ให้เห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยผสมโรงแรมไม่ใช่แค่กลยุทธ์เสริมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นมาตรฐานการแข่งขันใหม่ของอุตสาหกรรม ที่ผู้ประกอบการที่สามารถชิงจังหวะ ออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว พร้อมควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นผู้ที่ยืนหยัดได้ในสมรภูมินี้
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,141 วันที่ 19 -22 ตุลาคม พ.ศ. 2568
เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 %
ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"
และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน
รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!
วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568
เวลา 13.00 - 16.00 น.
สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8
คลิกลงทะเบียน : https://bit.ly/3nANsQr
สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : @Tooktee >> https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w
ทำเลบางซื่อ - ทำเลคอนโดขายดี กลางปี 2563
จากงานสัมมนาทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ ณ กลางปีพ.ศ. 2563 ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (AREA) ซึ่งจัดการสัมมนาวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จากข้อมูลพบว่า ทำเลบางซื่อ (C4) เป็นทำเลคอนโดขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีอัตราการขายคอนโดต่อพื้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดที่มีระดับราคา 2-3 ล้านบาท.ขอบเขตทำเลบางซื่อ (จากคำจำกัดความของ AREA) อยู่ตั้งแต่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ขวา) บริเวณเหนือกรุงเทพชั้นใน ไปจรดเขตกรุงเทพฯ ฝั่งทางเหนือ โดยมีเส้นถนนเส้นหลักในพื้นที่ได้แก่ ถนนพระราม 6, ถนนประชาราษฎร์สาย 1, ถนนประชาราษฎร์สาย 2, ถนนประชาชื่น (เลียบคลองประปา) และปลายถนนรัชดาภิเษก ที่ไปเชื่อมต่อกับถนนวงศ์สว่าง. ที่มา: ทีมงาน Tooktee.comทำเลบางซื่อ คือ ??? เป็นทำเลที่มีความหลากหลายในการใช้พื้นที่ เช่น สถาบันการศึกษา (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) พื้นที่หน่วยงานทางการทหาร พื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ (SCG และปูนซีเมนต์ไทย) รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ การพัฒนาระบบคมนาคมในพื้นที่หลัก ๆ ที่น่าสนใจ คือ บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านการคมนาคมยุคใหม่ของกรุงเทพฯ ตามแผนการพัฒนาจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีแดงอ่อน รวมไปถึงสาย Airport Link ที่จะเชื่อมต่อท่าอากาศยานระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พาดเชื่อมกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ นับว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ทำให้ภาพรวมทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองสถานีกลางบางซื่อ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณ ภาพจากประชาชาติธุรกิจอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ - สัปปายะสภาสภาน (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)ขอบคุณภาพจาก Line Today. ทำไมทำเลบางซื่อนี้ถึงขายดี???เหตุผลจากการเป็น Hub ในด้านการคมนาคมในอนาคต และปัจจุบันยังสามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานี ดูโครงข่ายรถไฟฟ้า รวมไปถึงหากเป็นผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีเส้นทางด่วนต่าง ๆ ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์ ที่สามารถไปใช้บริการได้ในเวลาเร่งด่วนได้ กอปรกับ การเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้มีความต้องการคอนโดในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น .ช่วงราคาไหนถึงขายดี???จากฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้สำรวจและช่วงระดับราคาคอนโดที่ได้สำรวจออกเป็น 7 ระดับ ตั้งแต่ราคา 0.500-1.000 ล้านบาท/หน่วย ไปจนถึงราคามากกว่า 20 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งกลางปี พ.ศ.2561 พื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) พบว่าทำเลบางซื่อ เป็นทำเลที่มีการซื้อ-ขายคอนโดมากที่สุด เป็นอันดับ 1 โดยเป็นทำเลคอนโดขายดีในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท ที่มา : สรุปข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจากข้อมูลข้างต้นพบว่ามีการซื้อ-ขาย ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเท่ากับ 845 หน่วย คิดเป็นถึง 3% ของการขายทั้งหมดในพื้นที่ BMR (Bangkok Metropolitan Region) หากวิเคราะห์คอนโดที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน นิยมพัฒนาบริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนประชาชื่น เป็นต้น โดยหากตั้งอยู่ติดเส้นถนนสายหลัก จะมีระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านบาท และหากอยู่ในทำเลซอยจะอยู่ที่ระดับราคาจะลดหลั่นลงมา ซึ่งหากคอนโดก่อสร้างบริเวณเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งขาเข้าเมืองนนทบุรี ก็จะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ คอนโดที่น่าสนใจในทำเล ได้แก่ ริชพาร์ค @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ และริชพาร์ค @ บางซ่อน สเตชั่น เป็นต้น.นอกจากทำเลบางซื่อ ยังมีทำเลอื่นๆ ใกล้เคียง ก็มีความน่าสนใจเช่นเดียวกันทั้งทำเลวงแหวน-เพชรเกษม ทำเลบางกอกน้อย-บางใหญ่ และทำเลบางพลัด ซึ่งคอนโดที่น่าสนใจ จะอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาท และ 1-2 ล้านบาท ในอนาคตก็มีโอกาสติดอันดับทำเลคอนโดขายดีอันดับ 1 ได้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนทำเลคอนโดขายดีสุดๆ หรือไม่ อย่างไร.ในส่วนของเนื้อหาฉบับเต็มสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับhttp://www.area.co.th/
ทำเลพหลโยธิน-รามอินทรา
ทำเล พหลโยธิน-รามอินทรา ทำเลทองขายดี ทำเลศักยภาพสูง เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 63) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)(คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 64) ข้อมูลโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา เป็น 1 ใน 14 โซนใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วย 6 โซนย่อย ได้แก่ D1: สายไหม D2: สะพานใหม่ D3: บางบัว D4: ลาดปลาเค้า-มัยลาภ D5: วัชรพล-คู้บอน D6: สุขาภิบาล 1 ที่อยู่อาศัยอยู่ในโซน D : พหลโธยโน-รามอินทรา ตำแหน่งที่ตั้ง : ทำเล D พื้นที่ส่วนตอนบนของกรุงเทพฯก่อนเข้าเขตรังสิต (ปทุมธานี) ทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มคนทำงานท่าอากาศยานดอนเมือง (ทอ.) รวมไปถึงหน่วยงานราชการแลทหารในพื้นที่ ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูตต ทำให้สามารถรองรับกลุ่มคนทำงานในเมืองที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อย่างดี ขอบเขตด้านบนเป็นเส้นถนนสายไหมที่เชื่อมต่อมาจากเส้นถนนพหลโยธินยาวไปถึงบางส่วนของเส้นถนนหทัยราษฎร์ ด้านตะวันออกจรดถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) ทิศใต้จรดถนนประเสริฐมนูญกิจและฝั่งตะวันตกจรดถนนวิภาวดีรังสิต สัดส่วนประเภทที่อยู่อาศัยรวมพื้นที่ ที่อยู่อาศัยที่ยังเปิดขายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนหน่วยขายกว่า 70% ของหน่วยที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561) ราคาเฉลี่ยบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียมที่ยังเปิดขายอยู่ในพื้นที่ (ข้อมูล ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2560) ราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยต่อหน่วย บ้านเดี่ยว 9.166 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2.332 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยราคาทั้ง 14 โซนในกรุงเทพฯและปริมณฑล บ้านเดี่ยว 7.054 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 3.704 ล้านบาท สรุปภาพรวมตลาด ราคาเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 6 ราคาเฉลี่ยรวมในพื้นที่ สูงกว่า ของราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ยังเปิดขายอยู่ ณ ครึ่งปี พ.ศ. 2561 ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 14 ทำเล หมายเหตุ 1.การแบ่งวิเคราะห์ทำเลตลาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวน 14 ทำเล (ตั้งแต่ตัวอักษร A ถึง N) และแบ่งเป็นทำเลย่อยจากทำเลหลักรวมจำนวนทั้งสิ้น 78 พื้นที่ (Zone) เป็นการแบ่งทำเลโดยพิจารณาจากศักยภาพของพื้นที่ในด้านลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ รูปแบบการคมนาคม และสภาพภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ เป็นสำคัญ 2.ข้อมูลนำเสนอภาพรวมด้านตลาดที่อยู่อาศัย เป็นข้อมูลที่เกิดจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ใช้นำเสนอในเว็บไซต์ ทุกที่ (www.Tooktee.com) เนื้อหาข้อความ และรูปภาพนำเสนอต่างๆ ที่แสดงทั้งหมดถือเป็น ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท เอเจนซี่ ฟอ ร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เท่านั้น ห้ามมิให้บุคคลอื่น คัดลอก ดัดแปลง หรือ ทำซ้ำ หากมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัดโดยตรง
อสังหาฯ เปิดเกมรุกโรงแรม เร่งปรับกลยุทธ์ ไม่หวั่นจีนหาย
<div style="text-align:start"> <div> <div> <h2 style="margin-left:0px; margin-right:0px"><span style="font-size:20px">ทุนใหญ่เร่งขยายพอร์ตโรงแรมรายได้ประจำ รับเทรนด์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่-การลงทุนยั่งยืนทั่วภูมิภาค อสังหาฯ ไม่หวั่นจีนหาย ขณะห้องพักสะสมทั่วประเทศ 703,751 ห้อง</span></h2> </div> </div> </div> <div style="text-align:start"> <div> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px"><span style="font-size:18px">ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมธุรกิจโรงแรมไทยเผชิญภาวะชะลอตัวบางส่วนจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ โดยข้อมูลจาก<strong>ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)</strong> ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือประมาณ 16.68 ล้านคน โดยมีปัจจัยหลักมาจากตลาดจีนที่หดตัวแรงถึง 34.1% ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรายได้และอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ</span></p> </div> </div> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px"> </p> <p><strong>ลงประกาศขายฟรีกับ Tooktee <a href="https://www.tooktee.com/Admin/Account/Sign-Up?ReturnUrl=/Admin/Member/Property">ลงฟรีได้ที่นี่</a></strong></p> <p><a href="https://www.tooktee.com/Admin/Account/Sign-Up?ReturnUrl=/Admin/Member/Property" target="_blank"><span style="font-size:16px"><span style="background-color:transparent; color:#000000"><img alt="ลงประกาสขายบ้าน Tooktee " src="https://trebsguru.wordpress.com/wp-content/uploads/2025/04/ad.b.png" style="height:120px; margin-left:0px; margin-top:0px; width:600px" /></span></span></a></p> <p><span style="font-size:18px"><span style="background-color:#ffffff; color:#000000">อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ “อัตราการเข้าพักเฉลี่ย” ของโรงแรมทั่วประเทศกลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60.8%จากปีที่แล้วที่ 59.1% สะท้อนว่าความต้องการใช้บริการที่พักยังมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะในภูมิภาคท่องเที่ยวหลัก เช่น ภาคใต้ที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุดถึง 70.9% ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้มีการเพิ่มของจำนวนห้องพักสะสม แต่กลับมีอัตราเข้าพักลดลงเล็กน้อย -0.7% แสดงถึงการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะอุปทานส่วนเกินที่เริ่มชัดเจน</span> </span></p> <p><span style="font-size:18px">ด้านอุปทานในตลาดโรงแรมกลับอยู่ในช่วง “พักฐาน” โดยครึ่งปีแรกมีการขออนุญาตเปิดโรงแรมใหม่ทั่วประเทศเพียง 232 แห่ง รวม 8,946 ห้อง ลดลงจากปีก่อนกว่า 34.6% ทั้งจำนวนโรงแรมและห้องพัก สะท้อนการชะลอการลงทุนระยะสั้นของผู้ประกอบการเพื่อรอดูทิศทางตลาด ขณะที่โรงแรมที่เปิดให้บริการสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 16,369 แห่ง รวม 703,751 ห้อง ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">ในอีกมุมหนึ่ง สัญญาณการลงทุนใหม่เริ่มกลับมาอย่างชัดเจนใน “ด้านการก่อสร้าง” โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้นถึง 29.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ -ปริมณฑลที่พุ่งสูงถึง 230.7% ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าทุนรายใหญ่กำลัง “วางหมากระยะยาว” รอจังหวะตลาดฟื้นเต็มตัว</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">จังหวัดที่มีการก่อสร้างโรงแรมมากที่สุดคือ ภูเก็ต ซึ่งมีพื้นที่อนุญาตกว่า 195,000 ตารางเมตร หรือเกือบหนึ่งในสามของทั้งประเทศ สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแห่งนี้ รองลงมาคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี กาญจนบุรี และพังงา ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญที่รองรับนักเดินทางต่างชาติ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">ในมุมตลาดทุน การวิเคราะห์ของคุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ระบุว่า แม้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลงกว่า 35% แต่ไทยยังคงเป็นจุดหมายหลักของนักเดินทางจากประเทศอื่น เช่น อินเดีย รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งเพิ่มขึ้นเกิน 10% ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกยังได้รับแรงหนุนจากการบริโภคและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">นายนรศักดิ์ ศุภกรธนกิจ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนและการลงทุนของคุชแมนฯ ระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในภาคโรงแรมยังคงขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะโรงแรมแนว “ไลฟ์สไตล์” และ “บูทีคโฮเทล” ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่อย่างกลุ่ม Gen Z ซึ่งให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่าความหรูหราแบบเดิม การออกแบบจึงต้องสะท้อนอัตลักษณ์ ความยั่งยืน และดีไซน์เฉพาะตัวเพื่อตอบโจทย์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">กลุ่มทุนอสังหาฯ รายใหญ่เริ่มหันมาขยายพอร์ตสู่ “รายได้ประจำ” มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกซึ่งให้กระแสเงินสดระยะยาวในช่วงเศรษฐกิจผันผวน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดการร่วมทุน (Joint Venture) ระหว่างทุนไทยกับต่างชาติ เพื่อพัฒนาโรงแรมรูปแบบใหม่ในหัวเมืองท่องเที่ยวและเมืองรอง</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีกก็ยังคงเดินหน้าเติบโตควบคู่ไปกับโรงแรม ด้วยแนวคิด “ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์” ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่ขายสินค้า แต่กลายเป็นจุดรวมของประสบการณ์กิน-เที่ยว-ช้อป ทำให้ภาคอสังหาฯ รายได้ประจำกลายเป็น “เครื่องยนต์คู่ขนาน” ที่ช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในช่วงฟื้นตัว</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">เมื่อมองไปถึงแนวโน้มข้างหน้า ภาพของตลาดโรงแรมไทยในปี 2569 อาจไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันด้านราคาหรือจำนวนห้องพักอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันด้านแนวคิด การสร้างแบรนด์ และความยั่งยืน ผู้ประกอบการที่ปรับตัวทันเทรนด์ “ประสบการณ์นำการตลาด” จะกลายเป็นผู้นำยุคใหม่ของอุตสาหกรรมนี้</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ดีเวลลอปเปอร์เริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่โดยมีแรงขับเคลื่อนหลายมิติ ตั้งแต่การกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ การสร้างกระแสเงินสดประจำจากรายได้ค่าห้องพักที่ช่วยรักษาสภาพคล่อง ไปจนถึงการใช้ประโยชน์จากที่ดินทำเลดีในเมืองให้เกิดมูลค่าสูงสุดผ่านโครงการผสมผสาน ขณะที่การผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โรงแรม รถหรู หรือแฟชั่น ช่วยยกระดับภาพลักษณ์และสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันกำลังระอุ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">ทั้งนี้ เบื้องหลังโอกาสที่สดใสนี้ยังมีความท้าทายที่ต้องจับตา โดยเฉพาะต้นทุนการบริหารจัดการที่สูงขึ้น ทั้งค่าบุคลากร ระบบบริการ และการบำรุงรักษา รวมถึงความเสี่ยงจากความไม่สมดุลของอุปสงค์-อุปทาน หากอัตราการเข้าพักตํ่ากว่าคาดจะกลายเป็นภาระต้นทุนคงที่หนักหน่วง ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบโครงการแบบมิกซ์ยูสที่ไม่ลงตัวอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและสร้างความขัดแย้งระหว่างภาคส่วนต่างๆ ภายในโครงการเดียวกัน ส่วนดีเวลลอปเปอร์ที่มีภาระหนี้สูงอาจต้องเผชิญแรงกดดันทางการเงินหากรายได้จากโรงแรมไม่เป็นไปตามเป้าหมาย</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ JLL เผยว่ามูลค่าการลงทุนในโรงแรมไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สูงถึงประมาณ 301 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9.8 พันล้านบาท และคาดว่าจะทะลุ 650 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปี สะท้อนความเชื่อมั่นของ</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">นักลงทุนที่มีต่อตลาดนี้ ประกอบกับข้อมูลจาก HospitalityNet ที่ระบุว่าความต้องการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์เนมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ให้เห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยผสมโรงแรมไม่ใช่แค่กลยุทธ์เสริมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นมาตรฐานการแข่งขันใหม่ของอุตสาหกรรม ที่ผู้ประกอบการที่สามารถชิงจังหวะ ออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว พร้อมควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นผู้ที่ยืนหยัดได้ในสมรภูมินี้</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"><span style="font-size:18px">หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,141 วันที่ 19 -22 ตุลาคม พ.ศ. 2568</span></p> <p style="margin-left:0px; margin-right:0px; text-align:start"> </p> <h2>เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 % </h2> <p><a href="https://www.tooktee.com/agent/seminar/37/#seminar-ad-modal" style="box-sizing: border-box; color: inherit; text-decoration: none; background-color: rgb(255, 255, 255); font-family: -apple-system, BlinkMacSystemFont, "Segoe UI", Roboto, "Helvetica Neue", Arial, sans-serif, "Apple Color Emoji", "Segoe UI Emoji", "Segoe UI Symbol"; font-size: 16px; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: left; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal;"><img alt="Tooktee Live" src="https://imgtooktee.files.wordpress.com/2022/05/ad.6.png" style="border-style:none; box-sizing:border-box; height:225px; vertical-align:middle; width:500px" /></a></p> <h3><strong>ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"<br /> และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน</strong></h3> <p><strong>รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!</strong></p> <p>วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568</p> <p>เวลา 13.00 - 16.00 น.</p> <p>สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8 </p> <p>คลิกลงทะเบียน :<span style="color:#e74c3c"> </span><a href="https://www.tooktee.com/agent/seminar/37/"><span style="color:#e74c3c"><strong>https://bit.ly/3nANsQr</strong></span></a></p> <p>สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : <strong>@Tooktee >> <a href="https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w" target="_blank"><span style="color:#e74c3c">https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w</span></a></strong></p> <p> </p>
Why TOOKTEE?
Many discounts from Tooktee.com throughout the year.
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติม

